วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

มัสมั่นไก่


มัสมั่นไก่
วัตถุดิบและสัดส่วน:
พริกแกงมัสมั่น
1. พริกแห้งเม็ดใหญ่แช่น้ำไว้ 5-8 เม็ด
2. พริกขี้หนูแห้ง 5 เม็ด
3. รากผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
4. ลูกผักชีคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
5. ยี่หร่าคั่ว1 ช้อนชา
6. ลูกกะวานคั่ว 1 ผล
8. อบเชยคั่ว 1 ก้าน
9. ข่าซอย 1 ช้อนชา
10. ตะไคร้ 2 ช้อนโต๊ะ
11. กระเทียมเผา 2 ½ ช้อนโต๊ะ
12. หอมแดงเผา 2 ช้อนโต๊ะ
13. พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
14. กะปิ 2 ช้อนชา
15.เ กลือ ¾ ช้อนชา


แกงมัสมั่นไก่
1. น่องไก่ หรืออกไก่ ½ กิโลกรัม
2. พริกแกงมัสมั่นไก่ 200 กรัม (ถ้าชอบเผ็ดมากเพิ่มได้ค่ะ)
3. มันฝรั่งล้างและต้มให้สุกหั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ 4-5 หัว
4. หอมใหญ่ 3 หัว
5. ถั่วลิสงคั่ว ¼ ถ้วย
6. น้ำปลาอย่างดี ¼ ถ้วย
7.น้ำตาลปี๊บ ½ ถ้วย
8. น้ำมะขามเปียก ¼ ถ้วย
9. หัวกะทิ 1 ถ้วย
10. หางกะทิ 4-5 ถ้วย


ขั้นตอนการปรุง:
1.เคี่ยวหัวกะทิจนแตกมันใส่พริกแกงมัสมั่นลงไปผัดให้หอม ใส่น่องไก่ลงไปผัดจนสุก
2.เติมหางกะทิลงไป เคี่ยวจนเนื้อไก่เปื่อยด้วยไฟเบา
3.ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลปี๊บและน้ำมะขามเปียก จากนั้นใส่หัวหอมและมันฝรั่งลงไป รอจนเดือดอีกครั้งโรยถั่วลิสงคั่วลงไป ปิดไฟตักใส่ชามทานร้อนๆกับข้าว หรือทานกับโรตีก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ



ผัดเผ็ดปลาดุกกรอบ


ผัดเผ็ดปลาุดุกกรอบ
ส่วนผสม
- ปลาดุก 1.5 กิโลกรัม
- น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ 1/2 ถ้วย
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
- กระชายซอย 3 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยอ่อนเด็ด 3 ช่อ
- พริกหยวกหั่นแฉลบ 3 เม็ด
- ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
- น้ำมันพืชสำหรับทอด
- ใบกะเพราทอดกรอบสำหรับตกแต่ง

วิธีทำ
1. ล้างปลาดุก ผ่าท้อง ควักไส้และพุงออก ใส่ลงในอ่างผสม ใส่เกลือป่นเล็กน้อยลงคลุกเคล้าให้ทั่ว ล้างน้ำออก แล้วล้างอีกครั้งเพื่อกำจัดเมือกและกลิ่นคาว หั่นเป็นแว่นหนา 1/2 นิ้ว ส่วนหัวปลาดุกสับเป็น 2 ชิ้นตามยาว ล้างแล้วพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ
2. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน เคล้าปลาดุกกับเกลือป่นเล็กน้อย จากนั้นใส่ลงทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้น พักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน
3. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงผัดจนทั่วและมีกลิ่นหอม ใส่น้ำ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ผัดจนเข้ากันทั่ว ชิมรสให้หวานเค็ม ใส่ปลาดุกทอดกรอบ ผัดอีกครั้งพอทั่้ว ใส่กระชาย พริกไทยอ่อน พริกหยวก และใบมะกรูด ผัดพอเข้ากัน ปิดไฟ
4. ตักราดบนข้าวสวยร้อนๆ หรือตักใส่จาน โรยใบกะเพราทอดกรอบ เสิร์ฟ



แกงเขียวหวานไก่


แกงเขียวหวานไก่
ส่วนผสม น้ำพริก + เครื่องแกง :
• ลูกผักชีคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
• ยี่หร่าคั่ว 1 ช้อนชา
• พริกไทยเม็ด 5 เม็ด
• พริกขี้หนูสีเขียวเม็ดใหญ่ 15 เม็ด
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนชา
• ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
• ผิวมะกรูดหั่นละเอียด ½ ช้อนชา
• รากผักชีหั่น 1 ช้อนชา
• กระเทียม 9 กลีบ
• หอมแดงซอย 3 หัว
• กะปิ 1 ช้อนชา

วิธีทำ น้ำพริก+เครื่องแกง :
1. โขลกลูกผักชี ยี่หร่าและพริกไทยเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วยไว้
2. โขลกพริกขี้หนูสีเขียวกับเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด และรากผักชี โขลกพอละเอียด ใส่กระเทียม หอมแดง โขลกให้ละเอียด ใส่เครื่องเทศที่โขลกและกะปิ โขลกให้เข้ากัน

เครื่องปรุง + ส่วนผสม
-น้ำพรกแกงเขียวหวาน 1/4 ถ้วยตวง
-เนื้อไก่ 350 กรัม (หั่นเป็นชิ้นเล็ก พอดีคำ)
-กะทิ 1 1/4 ถ้วยตวง
-ใบโหระพา 1/4 ถ้วยตวง
-มะเขือเปราะ 2 ลูก (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ)
-น้ำุซุปไก่ 1/2 ถ้วยตวง
-น้ำตาลมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำตาลทรายธรรมดา)
-น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
-พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด (หั่นเฉียง)
-ใบมะกรูด 4 ใบ

 วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ตั้งกะทิ 1/2 ถ้วยตวง (กระทิส่วนที่เหลือไว้ค่อยใช้ในขั้นตอนต่อไป) บนกระทะจนร้อน (ใช้ไฟปานกลาง) คนจนกระทิเดือดประมาณ 3 - 5 นาที จากนั้นใส่เครื่องแกงเขียวหวานลงไปผัดกับกระทิสักพักจนน้ำกระทิงวดลง จึงเทส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อใหญ่
2. นำหม้อใบใหญ่ตั้งไฟปานกลาง ใส่เนื้อไก่และคนประมาณ 2 นาที จากนั้นใส่น้ำปลา, น้ำตาล คนต่อไปอีก 1 นาที ใส่มะเขือเปราะที่หั่นไว้แล้ว ใส่น้ำกระทิที่เหลือและใส่น้ำซุปไก่ ต้มต่อไปสักพักจนเนื้อไก่เริ่มสุก และมะเขือเปราะนิ่ม






ปลาราดพริก


ปลาราดพริก
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* ปลา 1 ตัว น้ำหนักประมาณ 400-500 กรัม
  (ล้างทำความสะอาดและขอดเกล็ด)
* น้ำมะขาม 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
* หอมแดงหั่นหยาบ 1 หัว
* กระเทียมหั่นหยาบ 2 กลีบ
* ผักชี (เด็ดเอาแต่ใบ ไว้แต่งหน้าอาหาร)
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* พริกชี้ฟ้าหั่นหยาบ (สีแดงหรือเหลือง) 3 เม็ด

วิธีทำทีละขั้นตอน
        ปลาทอด:
      1. บั้งข้างตัวปลาทั้งสองข้าง เพื่อให้เวลาทอดเนื้อปลาสุกได้ง่ายและสุกทั่วทั้งตัว
      2. ใส่น้ำมัน (ประมาณ 1/2 ถ้วยตวงหรือพอท่วมตัวปลา) ในกระทะและนำไปตั้งไฟอ่อน ทอดปลาให้สุกทีละข้าง (หนึ่งข้างใช้เวลาประมาณ 10 นาที) ระหว่างทอดอย่ากลับหน้าปลาจนกว่าข้างหนึ่งข้างใดจะสุก เพราะจะทำให้เนื้อปลาเละไม่น่าทาน
      3. เมื่อข้างหนึ่งสุกจึงกลับหน้าไปอีกข้าง โดยเวลาในการทอดอีกข้างให้สุกจะไม่นานเท่าข้างแรก (ใช้เวลาประมาณ 5 นาที) เมื่อปลาสุกดีแล้วให้นำออกมาวางบนกระดาษซับมัน แล้วจึงนำไปจัดใส่จานไว้
เคล็ดลับ : เพื่อให้ได้ปลาที่กรอบขึ้น ให้นำปลาที่ทอดแล้วไปอบในเตาอบที่อุณหภูมิประมาณ 350 องศาฟาเรนไฮต์ (~175 องศาเซลเซียส) ประมาณ 10 นาที

       น้ำราดปลา :
     1. ใส่น้ำมันประมาณ 1 ช้อนโต๊ะในกระทะ นำไปตั้งไฟอ่อนๆ จากนั้นใส่พริก, หอมแดง และกระเทียมลงไป ผัดให้เข้ากัน
     2. ปรุงรสด้วยน้ำมะขาม, น้ำปลา, น้ำตาล และน้ำเปล่าประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ คนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มเดือด ถ้าน้ำราดข้นเกินไป สามารถเิติมน้ำเปล่าลงไปเพิ่มได้อีกนิดหน่อย รสชาิิติของน้ำราดควรจะมีรสหวาน, เผ็ดและเปรี้ยวพอๆกัน
     3. เมื่อเตรียมน้ำราดเสร็จแล้ว จึงนำไปราดหน้าปลาที่ทอดไว้แล้ว แต่งหน้าด้วยผักชี เสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ





แกงส้มผักรวมกุ้ง



แกงส้มผักรวมกุ้ง
ส่วนผสมสำหรับตำพริกแกงส้ม
         - หอมแดง 8 หัว
           - กระชาย 8 ราก
           - พริกแห้งเม็ดใหญ่ป่นหยาบ 3 ชต. 
          - พริกขี้หนูแห้งป่นหยาบ 1 1/2 ชต.
          - กะปิ 1 1/4 ชต.
ส่วนผสมและเครื่องปรุงสำหรับทำแกงส้ม
         -น้ำพริกแกงส้ม 4 ชต.
         - เนื้อปลา 100 กรัม 
         - น้ำซุป 4 1/2 ถ้วย
         - มะขามเปียกชนิดไม่มีเม็ด 50 กรัม  ...... (คั้นเอาน้ำมะขาม 1/2 ถ้วย)
         - น้ำตาลปี๊บ 2 - 3 ชต.
         - เกลือป่น   2 ชต.
         - น้ำปลา 2 - 3  ชต.
         - มะนาวน้ำดีๆ  1 ลูก         - ผักต่างๆ ตามชอบ 
         - กุ้งสดแกะเปลือกแล้ว ปริมาณตามชอบ



วิธีทำ แกงส้มรสเด็ด
1. ขอดเกล็ดปลาช่อนออกแล้วล้างให้สะอาดหลังจากนั้นก็ผ่าท้องเอาไส้ออก แยกพุงไว้ทำความสะอาดพุงปลา ตัดท่อนหางนำไปต้มในน้ำเดือดจนสุก ท่อนตัวตัดเป็นท่อนหนาประมาณ 1 นิ้ว ท่อนหัวผ่าครึ่งแบ่งเป็น 2 ซีก

2. โขลกพริกแห้ง หอม กระปิให้ละเอียดแกะเนื้อปลาที่ต้มไว้โขลกรวมกันกับน้ำพริก

3. ล้างผักทุกชนิดให้สะอาด ผักกระเฉดเด็ดเอาแต่ยอด ดอกแคแคะเกษตรด้านในออก ปอกหัวไชเท้าหั่นเป็นแว่นหนา 1/2 ซม. หั่นถั่วฝักยาวเป็นท่อนยาว 3-4 ซม. หั่นผักกาดขาวเป็นท่อนๆ 

4. ใช้น้ำในหม้อต้มปลาตั้งไฟให้เดือด ใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้ พอเดือดใส่หัวไชเท้า ถั่วฝักยาว ใส่ผักกาดขาว พอหัวไชเท้าเริ่มนุ่ม ใส่ดอกแค ใส่ปลาทั้งหมด

5. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปิ๊บ ใส่ผักกระเฉด คนให้ทั่วแล้วยกลง อย่าต้มนานนะครับผักกระเฉดจะเหนียว ตักใส่จานเสริ์ฟร้อนๆจึงจะอร่อย เคล็ดลับมะขามเปียกใช้น้ำต้มปลาละลายประมาณ 1/4 ถ้วย บี้ให้เนื้อมะขามละลายออกมา





วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ต้มยำกุ้งนำ้ข้น


ต้มยำกุ้ง

ส่วนประกอบ

* กุ้งขนาดกลาง 12 ตัว (ปอกเปลือก, ทำความสะอาด)
* เห็ดฟาง 10 อัน
* ตะไคร้ 1 กำ
   (ทุบให้แหลกและหั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 2")
* ใบมะกรูด 3 ใบ
* เกลือ 1 ช้อนชา
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
* พริกขี้หนู 6 เม็ด (ทุบพอให้แหลก)
* น้ำสะอาด 4 ถ้วยตวง
* ผักชี 1/2 ถ้วยตวง (หั่นหยาบ)

วิธีทำต้มยำกุ้งน้ำข้น
  1. นำตะไคร้มาทุบแบบหยาบ และหั่นประมาณ 1 นิ้ว ต่อด้วยหั่นข่า 1 แง่งให้เป็นแว่นๆ เพื่อให้ได้ประมาณ 5-7 แว่น ไม่ต้องหนามาก เอาแบบพอดีๆ
  2. หั่นผักชีเป็นฝอยๆ และนำรากผักชีไปทุบพอหยาบ และทุบพริกขี้หนูอีก 10 เม็ดให้พอหยาบเช่นกัน
  3. หั่นมะเขือเทศลูกใหญ่โดยผ่าให้ได้ 4 ชิ้น จากนั้นก็หั่นเห็ดฟางแบบครึ่งและเห็ดนางฟ้าฉีกครึ่ง ใบมะกรูดนำมาฉีกครึ่งเป็น 4 ส่วน
  4. ปอกเปลือกกุ้งสดให้สะอาด ผ่าหลังและล้างน้ำให้สะอาด รวมทั้งผักทุกชนิดที่เราจะรับประทาน จำเป็นต้องล้างน้ำให้สะอาดก่อนหั่น
  5. เตรียมน้ำพริกเผาผสมนมสด โดยนำนมสดหรือน้ำข้นไม่หวาน 1 ถ้วยมาผสมกับ น้ำพริกเผา บี้ให้ตัวพริกเผาไม่ให้จับตัวเป็นก้อน
  6. นำหม้อต้มใส่น้ำเปล่า 1 ลิตรที่ได้เตรียมไว้ โดยเริ่มตั้งไฟด้วยไฟแรง หลังจากนั้นก็ใส่ตะไคร้ทุบและข่าที่หั่นเตรียมไว้ และใส่รากผักชีทุบลงไปพร้อมๆ กันเลย
  7. เมื่อน้ำเดือดแล้วให้ใส่เห็ดฟางและเห็ดนางฟ้าไปพร้อมๆ กับกุ้งสดรอจนน้ำเดือด
  8. พอน้ำเดือด ให้หรี่ไฟเป็นไฟเป็นแบบปานกลาง จากนั้นก็ใส่เครื่องปรุงรสที่เราได้เตรียมไว้แล้ว นั้นก็คือ น้ำปลา มะนาว คน 1 รอบ ตามด้วยน้ำพริกเผาผสมนมสด และคนให้เข้ากันอีกรอบ และเปิดไฟแรงอีกครั้ง
  9. นำมะเขือเทศและพริกขี้หนู  และใบมะกรูดมาใส่ลงในหม้อ พอน้ำเดือดแล้วให้ปิดไฟทันที
  10. ยกลงมาเทใส่ถ้วย จากนั้นก็โรยหน้าด้วยผักชี ถือว่าเป็นอันเสร็จเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟแล้วล่ะอาจปรุงรสเพิ่มตามใจชอ
เคล็ดลับความอร่อย
  • กุ้งจะใช้กุ้งตัวใหญ่หรือแบบตัวเล็กแกะเปลือกก็ได้ แล้วแต่ความชอบหรือสูตรของแต่ละร้าน (ดังเข่นรูปด้านล่าง)
  • สำหรับร้านที่จะนำสูตรไปทำขายควรทำรสชาติให้กลมกล่อม ไม่เปรี้ยว ไม่หวานมันมากเกินไป ซึ่งเป็นรสที่คนทั่วไปชอบ


อ้างอิง: http://www.ezythaicooking.com/free_recipes/Spicy-soup-with-prawn-and-lemon-grass_th.html    
           http://www.zabwer.com/2013/01/tom-yum-kung.html
           http://www.oknation.net/blog/foodfair/2008/12/04/entry-4